ส่วนประกอบของชุดกิโมโน ที่ควรรู้

เป็นทีทราบกันดีว่าชุดกิโมโนนั้นเป็นชุดประจำชาติของชาวอาทิตย์อุทัย ซึ่งชุดกิโมโนนั้นมีลักษณะพิเศษตรงที่เป็นชุดที่ตัดเย็บเสื้อผ้าแบบเส้นตรงหรือจากผ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีลายเดียวกันทั่วทั้งผืน สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เหมาะกับทุกเพศทุกวัยสวมใส่ได้ทุกฤดูกาล โดยสามารถเลือกใช้เนื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ

อีกหนึ่งความน่าสนใจของชุดกิโมโนคือเป็นชุดที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกเทศกาล หรือชีวิตประจำวันเราจึงได้พบเห็นว่าคนญี่ปุ่นยังนิยมใส่ไปเรียน ไปทำงาน หรือไปท่องเที่ยวตามเทศกาล นอกจากการสวมใส่ในงานพิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานปีใหม่ หรืองานพิธีสำคัญอื่นๆ  เช่นเดียวกับเครื่องแต่งกายแบบสากลและสำหรับผู้ที่สนใจ หรือต้องการที่จะสวมใส่ชุดกิโมโน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบต่าง ๆ ของชุดกิโมโน ดังต่อไปนี้

  • Nagajuban คือชุดด้านใน หรือชุดชั้นในของกิโมโน มักเป็นผ้าที่สีอ่อนและบาง
  • Koshihimo ผ้าเส้นเล็กยาวใช้สำหรับผูกชุดชั้นในให้แน่นและไม่เลื่อนหลุดได้ง่าย
  • Kimonoเป็นชุดด้านนอกที่มีลายผ้าสวยงาม เมื่อสวมใส่แล้วจะทำการผูกด้วยDatejimeสำหรับกิโมโนที่มีทั้งแบบดั้งเดิมที่ผู้สวมใส่ต้องใส่วิธีผูกให้แน่นแบบโบราณและแบบสำเร็จรูปเพื่อให้สะดวกแก่ผู้สวมใส่
  • Obi ผ้าผืนยาวที่มีไว้สำหรับผูกรอบเอว ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในการสวมใส่กิโมโนทั้งของผู้หญิงและผู้ชายและสามารถผูกให้สวยงามได้หลายแบบ มีให้เลือกสวมใส่ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบสำเร็จรูป
  • Obijime เป็นเชือกเส้นเล็ก ๆ ที่ผูกทับบนโอบิ นิยมใช้สำหรับกิโมโนของเด็กหญิงหรือหญิงสาวเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับชุดที่สวมใส่
  • Tabi ถุงเท้าทรงพิเศษ ที่ออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่กับรองเท้าเกี๊ยะของญี่ปุ่นได้
  • Geta รองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่น ทำจากไม้เนื้อแข็ง
  • ปิ่นปักผม
  • Obiitaเป็นตัวช่วยเสริมเพื่อให้ใส่กิโมโนได้ง่ายขึ้นมีรูปแบบเป็นแผ่นพลาสติกยืดหยุ่นที่คาดไว้ที่เอวหลังจากผูกDatejimeและก่อนผูกโอบิ เพื่อป้องกันไม่ให้โอบิเลื่อนหลุด F ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีhttp://www.casalenathailand.com/index.phpmo=30&cid=169601

 

 

วันพิเศษที่จะสวมใส่กิโมโน

ทราบไหมว่าชุดกิโมโนนั้นมีอุปกรณ์การแต่งกายที่มากความพิถีพิถันซับซ้อนกว่ายูกาตะมาก จึงมีน้ำหนักมากด้วย ด้วยเหตุนี้ กิโมโนจึงนิยมใส่เฉพาะแค่งานวันโอกาสพิเศษเท่านั้น (ถ้าหากคุณไม่ใช่เกอิชาที่จะต้องแต่งชุดกิโมโนทำงานทุกวัน) เช่น งานแต่งงาน หรือในสมัยก่อนก็ใส่ในฤดูหนาว เพื่อไม่ให้สาวๆ ชาวญี่ปุ่นห่างหายจากการใส่กิโมโน ที่ญี่ปุ่นจึงมีคอร์สเรียนการสวมใส่กิโมโนโดยเฉพาะ ซึ่งจะควบคู่ไปกับการสอนมารยาท การลุกนั่งขณะสวมใส่กิโมโนด้วย

กิโมโนมีหลากหลายสี และมีหลายประเภทมาก ซึ่งถ้าหากจะเคร่งตามระเบียบการสวมกิโมโนแล้วนั้น ผู้สวมจะต้องคำนึงถึงวัยของตน โอกาสพิเศษที่จะไป และสีของกิโมโนยังอาจจะต้องขึ้นกับฤดูที่สวมอีกด้วย เช่น ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิจะนิยมสีสันสดใส นอกจากนี้สถานภาพทางการแต่งงานก็มีความเกี่ยวข้อง furisodeกิโมโนที่ชายแขนเสื้อยาวสงวนไว้ให้เฉพาะแต่หญิงสาวโสดยังไม่แต่งงานใส่ได้เท่านั้น แต่ถ้าแต่งงานแล้วจะต้องเปลี่ยนมาเป็นกิโมโนที่ชายแขนเสื้อสั้นกว่า เรียกว่า tomesode ซึ่งลวดลายของกิโมโนจะอยู่เลยช่วงโอบิลงไปและมีความฉูดฉาดน้อยกว่า กระนั้นบางครั้งสาวโสดก็สามารถจะใส่ tomesode ได้ด้วย

วันเทศกาล 7-5-3 (seven-five-three) ในวันนี้เด็กผู้หญิงที่อายุครบ 3 ขวบ หรือ 7 ขวบจะได้ใส่กิโมโน และ 5 ขวบ สำหรับเด็กผู้ชาย ออกไปยังศาลเจ้าเพื่อขอพรให้กับชีวิตวัยเด็กของพวกเขา

เทศกาลฉลองอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ (Coming of Age) เพื่อฉลองการก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

วันสำเร็จการศึกษา โดยจะใส่คู่กับ hakama ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกระโปรงพลีทเอวสูง  และมักจะใส่กับรองเท้าบูทสีเข้มด้วย